วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

งานที่ 5

1. GIGO มาจากคำเต็มว่าอะไร โดยนิยามดังกล่าวต้องการมุ่งเน้นถือสิ่งใดเป็นสำคัญ
ตอบ GIGO กิโก <คำอ่าน>ย่อมาจาก garbage in , garbage out พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานแปลว่า เข้าผิด ออกผิด แต่ถ้าแปลตามตัวจะได้ว่า ขยะเข้า ขยะออก เป็นคำกล่าวที่ใช้เตือนสติผู้ใช้ คอมพิวเตอร์ว่า ถ้าใส่ข้อมูลที่ไร้คุณค่าลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องก็มิอาจจะทำให้ข้อมูลนั้นมีค่าขึ้นมาได้เลย อีกนัยหนึ่ง เป็นการบอกให้นักคอมพิวเตอร์มือใหม่รู้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หาใช่สิ่งมหัศจรรย์ที่จะเนรมิตข้อมูลเลว ๆ ให้เป็นสารสนเทศ (information) ดี ๆ ได้ ถ้าใส่ขยะ (ข้อมูลเลว ๆ) เข้าไป ก็จะได้ขยะ (สารสนเทศเลว ๆ ) ออกมา

2. การที่องค์กรหรือภาคธุรกิจทั่วไปในปัจจุบันนิยมนำระบบสรสนเทศมาใช้งานกันมากขึ้นและสามารถเป็นเจ้าของระบบสารสนเทศกันง่ายขึ้นสืบเนื่องมาจากสาเหตุใดยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ 1.ให้ผลตอบแทนจากเทคโนโลยีสารสนเทศสูงสุด
         2.ช่วยให้สามารถวางแผนการจัดการสารสนเทศที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตที่ส่งผลต่อองค์กรได้
ยกตัวอย่างเช่น  บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการใช้ระบบเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนากิจการ โดยวางกรอบแนวคิด 3 E อันได้แก่ E-thinking, E-Planning และ E-doing ให้คิด วางแผน และลงมือปฏิบัติการโดยเป็นระบบและให้เชื่อมโยงกันด้วยเทคโนโลยี ให้ข้อมูลข่าวสารเป็นจริงตรงเวลาปัจจุบัน Real Time ลดเอกสาร จนกระทั่งไม่ใช้เอกสาร (Paperless) เพื่อให้บริษัทฯ เป็นสำนักงานทันสมัย มีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารงานต่ำ แต่ประสิทธิภาพในการให้บริการสูง ( Cost Leadership, High Service Quality )
         3.ช่วยให้สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสารสนเทศที่มีได้อย่างเหมาะสม
         4.และยังช่วยเปรียบเทียบระดับคุณค่าของข้อมูลอีกด้วย

3. อยากทราบว่าเหตุผล 3 ประการที่ธุรกิจต่างก็นำระบบสารสนเทศมาใช้ในองค์กร
ตอบ 1. โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย คอมพิวเตอร์องค์กรต่างๆทั้งองค์กรธุรกิจ และ องค์กรที่ไม่ใช่ธุรกิจ ได้ปรับตัวเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกันแล้วเป็นส่วนใหญ่  องค์กรใดที่ไม่เชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน  จะโดดเดี่ยวและดำเนินธุรกิจได้ลำบาก จึงต้องนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ตลอดจนข้อบังคับทางกฏหมายในบางเรื่องอาจมีการบังคับใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อการควบคุม เช่น การขออนุญาตจดทะเบียนการค้าและการภาษีอากร ในอนาคตทุกองค์กรการค้าอาจต้องถูกบังคับให้เชื่อมโยงข้อมูลการขายและ สินค้าคงคลังเพื่อการจัดเก็บภาษีผ่านเครื่องบันทึกเงินสด
        2. องค์กรธุรกิจในอนาคตมีการแข่งขันสูง ทุกองค์กรต้องการเข้าถึงผู้บริโภคของตัวเองด้วยความแตกต่างจากคู่แข่ง ให้มากที่สุด (Customer approach  with  high differentiated products and services) ด้วยสินค้าและบริการที่ราคาถูกด้วยความรวดเร็วและคุณภาพดีเท่าที่ลูกค้าต้องการและระบุได้ด้วยตนเอง (Customization) ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเอื้อประโยชน์ให้แต่ละองค์กรสามารถทำธุรกิจ อีเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ได้ เช่น การซื้อขายสินค้าและทำธุรกรรมผ่านเว็บไซต์  หรือ การพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce)
        3. องค์กรต้องมีการปรับตัวและออกแบบองค์กรใหม่ เพราะถูกผลกระทบจากแรงกดดันในหลายด้าน ได้แก่ แรงกดดันจากเทคโนโลยี แรงกดดันจากสังคมและแรงกดดันจากตลาดหรือลูกค้า

4. ให้ยกตัวอย่างที่บอกถึงกิจการที่ปรับปรุงขบวนการธุรกิจใหม่ด้วยการนำสิ่งใดมาประยุกต์ใช้
ตอบ ยกตัวอย่างเช่น บริษัท บาธรูมดีไซน์ จำกัด บริษัทเลือกใช้กลยุทธ์ด้านจริยธรรม (Ethical Strategy) มาปรับปรุงและประยุกต์ใช้เป็นกุญแจที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งหมายถึงการประพฤติปฏิบัติคุณงามความดีและความถูกต้องบนพื้นฐานของ คุณธรรม เป็นที่ยอมรับและต้องการของสังคม โดยแบ่งออกเป็น 5 หมวดหลักได้แก่
1. หลักความพอประมาณคือ การเลือกดำเนินธุรกิจที่ตนเองมีความชำนาญและทำได้ดีที่สุด ไม่ดำเนินธุรกิจที่ไม่มีความเชี่ยวชาญหรือไม่มีประสบการณ์ นอกจากนี้การขยายกิจการยังต้องกระทำอย่างพอเพียงไม่กู้มากเกินความสามารถของ บริษัท และบริหารจัดการสัดส่วนของหนี้สินไม่เกินเงินทุนด้วยอัตรา 1 ต่อ 1 สำหรับในส่วนของการบริหารทางการเงินจะต้องให้มี cash flow ของกระแสเงินสดรับมากกว่ากระแสเงินสดจ่าย พร้อมทั้งบริหารสินค้าคงค้างให้เหลือน้อยที่สุดและหมุนเวียนเร็วที่สุด
2. หลักความมีเหตุผลคือ การปฏิบัติต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างมีเหตุมีผล เช่น การแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมและสม่ำเสมอให้แก่ผู้ถืหุ้น การบริหารจัดการที่มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ การปฏิบัติต่อผู้บริหารและพนักงานเสมือนคนในครอบครัว พร้อมทั้งช่วยพัฒนาส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เช่น การหาทางช่วยเหลือพนักงานในการลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ด้วยการจัดหาอาหารมาให้รับประทานทานฟรีในมื้อเที่ยง รวมไปถึงการช่วยพัฒนาอาชีพที่สามารถผลิตกันได้เองและนำมาขายกันเองภายใน บริษัท ซึ่งช่วยให้พนักงานสามารถลดรายจ่ายได้ นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้มีโอกาสเป็นผู้ให้ซึ่งไม่ใช่การบริ จาค แต่เป็นการลงแรงเพื่อไปช่วยเหลือคนอื่นๆเป็นต้น
3. หลักภูมิคุ้มกันคือ การจัดให้มีระบบที่ช่วยในการตรวจสอบการทำงานทั้งภายในและภายนอก เพื่อทำหน้าที่หาวิธีป้องกันการรั่วไหลที่เกิดจากการปฏิบัติการด้านต่างๆใน บริษัท พร้อมทั้งกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของบริษัท ซึ่งการบูรณาการกระบวนการต่างๆเหล่านี้จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่สามารถ ป้องกันบริษัทจากผลกระทบภายนอกในหลายๆด้าน เช่น ด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม
4. หลักความรู้ คือ การมุ่งเน้นการพัฒนาภายในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมความรู้และทักษะของพนักงาน ด้วยการส่งเสริมด้านต่างๆเพื่อให้สร้างความรอบรู้การมีสติและการมีปัญญา เช่น การส่งเสริมพนักงานในด้านการอบรมทั้งภายในและภายนอกองค์กร การส่งเสริมการศึกษาโดยการให้ทุนการศึกษาแก่พนักงาน การสร้างหน่วยงานวิจัยและพัฒนาของตนเอง โดยทีมงานเป็นคนไทยทั้งหมด พร้อมทั้งการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆในด้านสินค้าเพื่อแสดงถึงความสามารถในการ ออกแบบของบริษัทนั่นเอง
5. หลักคุณธรรม คือ การบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล การดำเนินธุรกิจภายใต้หลักคุณธรรม และจริยธรรมของบริษัท โดยการเอาใจใส่ต่อผลกระทบที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งจัดให้มีโครงการส่งเสริมให้พนักงานเป็นคนดี เช่น การจัดทำโครงการ “สร้างสายใยรักบ้านเด็กอ่อนรังสิต” โดยการจัดให้พนักงานทุกคนหมุนเวียนออกไปปฏิบัติหน้าที่ และทำความดีรับใช้สังคมโดยไม่รับสิ่งตอบแทนใดๆทุกๆวันพุธ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น